เอลซัลวาดอร์ได้ออกมาตอบโต้อย่างเป็นทางการและไม่พอใจต่อคำร้องของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ที่ต้องการให้ละทิ้ง Bitcoin เป็นเงินที่สามารถทำธุรกรรมได้อย่างถูกกฎหมาย
Alejandro Zelaya รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเอลซัลวาดอร์ บอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า
“ไม่มีองค์กรระหว่างประเทศใดที่จะบังคับให้เราทำสิ่งใดๆ ได้ … ประเทศต่างๆ เป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย และพวกเขาตัดสินใจโดยอธิปไตยเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ”
Zelaya กล่าวเสริมว่าเอลซัลวาดอร์ได้ดูแลอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรม BTC นั้นสอดคล้องกับกฎหมายการฟอกเงิน
ประธานาธิบดี Nayib Bukele เพิกเฉยต่อคำร้องของ IMF และจุดชนวนด้วยการลงทุนกองทุนสาธารณะมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ใน Bitcoin และพร้อมซื้อเมื่อใดก็ตามที่มูลค่าของ Cryptocurrency ลดลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว IMF กล่าวว่าการใช้ BTC ทำให้เกิด “ความเสี่ยงอย่างมาก” เมื่อพูดถึง “ความมั่นคงทางการเงิน ความสมบูรณ์ทางการเงิน และการคุ้มครองผู้บริโภค” และเตือนว่าหนี้สาธารณะของเอลซัลวาดอร์กำลังอยู่ใน “เส้นทางที่ไม่ยั่งยืน”
นอกจากนี้แล้ว คำแนะนำของ IMF ยังต้องการให้ยกเลิกการให้เงินประชาชนมูลค่า 30 ดอลลาร์ในสกุลเงิน BTC ที่ดาวน์โหลดกระเป๋าเงินดิจิทัล Chivo ถึงแม้ว่า IMF จะยอมรับว่ากระเป๋าเงิน Chivo สามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมทางการเงิน ประชาชนสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมได้ เพราะกว่า 70% ของชาวเอลซัลวาดอร์นั้นไม่มีบัญชีธนาคาร
IMF ต้องการให้แอป Chivo อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ไม่ใช่ Bitcoin
ทางด้านประธานาธิบดี Nayib Bukele ก็ตอบโต้ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 3.5 ล้านคน ในการเพิกเฉยต่อข้อกังวลของ IMF และท้าทายนักวิจารณ์คนอื่น ๆ เช่น Bank of England
ครั้งแรกที่ทาง IMF ออกมาเตือนเรื่องนี้ เขาก็ตอบกลับด้วยมีมจากเดอะซิมป์สันส์ และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มเข้ามาอีกเป็นสองเท่า พร้อมทวีตข้อความว่า
“มีเศรษฐีมากกว่า 50 ล้านคนในโลก ลองนึกภาพว่าพวกเขานั้นตัดสินใจเป็นเจ้าของอย่างน้อย 1 Bitcoin แต่มี Bitcoin เพียง 21 ล้านเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาไม่ถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ การขึ้นราคาอย่างมหาศาลก็แค่เรื่องของเวลา”