ราคา Cryptocurrency ร่วงทุกกระดานหลังจากที่ FBI กล่าวว่า ได้ยึด Bitcoin มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ที่ส่งไปยังบริษัทในเครือของกลุ่มแฮ็กเกอร์ “DarkSide” ที่อยู่เบื้องหลังการแฮ็กท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว
FBI กล่าวว่าได้ยึด 63.7 BTC มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งจ่ายโดย Colonial Pipeline หลังจากการโจมตีของแรนซัมแวร์ ซึ่งนำไปสู่การต่อคิวซื้อน้ำมันจำนวนมากในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ เนื่องจากตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว
Bitcoin ลดลงจากประมาณ 35,500 เหรียญสหรัฐ เหลือต่ำกว่า 34,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่รายงานข่าวนี้เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย พบว่าราคาได้ร่วงไปแตะ 32,900 เหรียญสหรัฐ ส่วนราคาของ Ethereum ลดลงจาก 2,700 เหรียญสหรัฐ เหลือต่ำกว่า 2,500 เหรียญสหรัฐ
การยึดเงินค่าแรนซัมแวร์คืนมาได้ ทำให้เกิดข้อสังสัยว่าทำไมถึงทำได้ โดย FBI กล่าวว่ามี “คีย์ส่วนตัว” ซึ่งเทียบเท่ากับรหัสผ่านอย่างคร่าวๆ สำหรับกระเป๋าเงิน 63.7 BTC แต่ไม่ได้บอกว่ามันได้มาอย่างไร
มีการคาดเดากันว่าแฮ็กเกอร์อาจใช้กระเป๋าเงิน “non-custodial” ซึ่งเก็บคีย์ส่วนตัวไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเอกชน ทำให้เสี่ยงต่อหมายจับของ FBI ที่สามารถดำเนินการยึดได้ หากเป็นเช่นนั้น กลุ่มที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายก็อาจจะโดนยึดได้เช่นกันหากมีการเก็บสินทรัพย์ดังกล่าวไว้แบบเดียวกัน